สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดนครนายก
- 3 ปีที่แล้ว
เวลา 09.56 น. วันที่ 26 ธันวาคม 2563 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลาวงกลม โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ทรงวางพานพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุม ทรงเป็นประธาน "งานรำลึกวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ทรงเปิดโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม ครบ 111 ปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานกำเนิด "คะเด็ด สกูล" เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2430 เพื่อให้การศึกษาวิชาการและวิชาทหารแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และบุตรข้าราชการ ต่อมานักเรียนนายร้อยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงแบ่งเป็นนักเรียนชั้นปฐม และชั้นมัธยม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยมที่ถนนราชดำเนินนอก ส่วนโรงเรียนนายร้อยชั้นปฐม ใช้บริเวณหลังพระราชวังสราญรมย์เช่นเดิม เมื่อก่อสร้างโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยมแล้วเสร็จ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2452 เมื่อแรกพระราชทานนามว่า "โรงเรียนทหารสราญรมย์" จากนั้น มีการปรับปรุงหลักสูตรและเปลี่ยนนามโรงเรียนเป็นระยะ โดยปี 2491 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนามใหม่ว่า "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบัน มีนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1-5 รวม 1,173 นาย
เวลา 12.26 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโรงเรียนปิยชาติพัฒนา ในพระราชูปภัมภ์ฯ ซึ่งตั้งขึ้นตามพระราชดำริเพื่อให้บุตรหลานข้าราชการ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รวมทั้งบุตรหลานของประชาชนในตำบลใกล้เคียง มีสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา ปัจจุบัน มีนักเรียน 578 คน ในการนี้ พระราชทานสิ่งของแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้แทนนักเรียน พระราชทานพันธุ์ไม้ผลและเมล็ดพันธุ์ผักแก่ผู้แทนชาวบ้าน แล้วพระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลลาในโอกาสที่จะสำเร็จการศึกษา โอกาสนี้ นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ นักเรียนบ้านพัก คณะนักเรียน ครู และบุคลากรของโรงเรียน รวมทั้งนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ที่ได้รับทุนพระราชทานไปศึกษาต่อที่สาธารณรัฐอินเดีย ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติตนแก่คณะครูและนักเรียน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จากนั้น ทอดพระเนตรโครงงานพัฒนาลิฟต์โดยสาร, โครงงานชุดอุปกรณ์โซลาร์เซลล์เคลื่อนที่, โครงงานระบบล็อคประตูอัติโนมัติ, โครงงานเครื่องผลิตน้ำจากอากาศอัจฉริยะ และโครงงานเครื่องคัดแยกมะนาว ซึ่งโรงเรียนได้พัฒนาทักษะด้านอิเล็กทรอนิกส์ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมทั้งความสามารถด้าน 3D-Printing ให้กับนักเรียน โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มาให้ความรู้, กิจกรรมการปลูกผักปลอดสารพิษ มีการทำน้ำหมักจากมูลวัว หมักดินด้วยปุ๋ยคอก การเพาะต้นกล้า ปลูกผัก และเก๊กฮวยปลอดสารพิษ มีการต่อยอดนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น เก๊กฮวยตากแห้ง ที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน จังหวัดนครนายก, โครงการฟื้นฟูสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน มีการสำรวจสภาพแวดล้อมทาง
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุม ทรงเป็นประธาน "งานรำลึกวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ทรงเปิดโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม ครบ 111 ปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานกำเนิด "คะเด็ด สกูล" เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2430 เพื่อให้การศึกษาวิชาการและวิชาทหารแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และบุตรข้าราชการ ต่อมานักเรียนนายร้อยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงแบ่งเป็นนักเรียนชั้นปฐม และชั้นมัธยม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยมที่ถนนราชดำเนินนอก ส่วนโรงเรียนนายร้อยชั้นปฐม ใช้บริเวณหลังพระราชวังสราญรมย์เช่นเดิม เมื่อก่อสร้างโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยมแล้วเสร็จ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2452 เมื่อแรกพระราชทานนามว่า "โรงเรียนทหารสราญรมย์" จากนั้น มีการปรับปรุงหลักสูตรและเปลี่ยนนามโรงเรียนเป็นระยะ โดยปี 2491 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนามใหม่ว่า "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบัน มีนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1-5 รวม 1,173 นาย
เวลา 12.26 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโรงเรียนปิยชาติพัฒนา ในพระราชูปภัมภ์ฯ ซึ่งตั้งขึ้นตามพระราชดำริเพื่อให้บุตรหลานข้าราชการ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รวมทั้งบุตรหลานของประชาชนในตำบลใกล้เคียง มีสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา ปัจจุบัน มีนักเรียน 578 คน ในการนี้ พระราชทานสิ่งของแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้แทนนักเรียน พระราชทานพันธุ์ไม้ผลและเมล็ดพันธุ์ผักแก่ผู้แทนชาวบ้าน แล้วพระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลลาในโอกาสที่จะสำเร็จการศึกษา โอกาสนี้ นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ นักเรียนบ้านพัก คณะนักเรียน ครู และบุคลากรของโรงเรียน รวมทั้งนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ที่ได้รับทุนพระราชทานไปศึกษาต่อที่สาธารณรัฐอินเดีย ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติตนแก่คณะครูและนักเรียน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จากนั้น ทอดพระเนตรโครงงานพัฒนาลิฟต์โดยสาร, โครงงานชุดอุปกรณ์โซลาร์เซลล์เคลื่อนที่, โครงงานระบบล็อคประตูอัติโนมัติ, โครงงานเครื่องผลิตน้ำจากอากาศอัจฉริยะ และโครงงานเครื่องคัดแยกมะนาว ซึ่งโรงเรียนได้พัฒนาทักษะด้านอิเล็กทรอนิกส์ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมทั้งความสามารถด้าน 3D-Printing ให้กับนักเรียน โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มาให้ความรู้, กิจกรรมการปลูกผักปลอดสารพิษ มีการทำน้ำหมักจากมูลวัว หมักดินด้วยปุ๋ยคอก การเพาะต้นกล้า ปลูกผัก และเก๊กฮวยปลอดสารพิษ มีการต่อยอดนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น เก๊กฮวยตากแห้ง ที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน จังหวัดนครนายก, โครงการฟื้นฟูสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน มีการสำรวจสภาพแวดล้อมทาง