ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวได้ติดตามไปดูการจับแมงป่องขายของนายสมาน พานเงิน อายุ 53 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1 ต.อุดมธัญญา อ.ตากฟ้า ซึ่งได้เดินเท้าเข้าไปหาจับแมงป่องช้างภายในป่าพงบริเวณใกล้เคียงกับบ้านพัก ซึ่งนายสมานระบุว่า เป็นป่าที่มีแมงป่องช้างอยู่อาศัยมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด
จากการลงพื้นที่ไปดูภารกิจดังกล่าว พบว่า นายสมานจะใช้อุปกรณ์ในการจับแมงป่องช้าง เพียง 3 อย่าง คือ เสียม 1 ด้าม ที่คีบ และถังน้ำอีก 1 ใบ โดยได้เดินทางออกจากบ้านพักไปที่แหล่งจับ ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 400 เมตร บุกป่าฝ่าดงซึ่งเต็มไปด้วยโคกกระสุน และหญ้าเจ้าชู้ เพื่อเข้าไปหาจับแมงป่องช้าง และทันทีที่ไปถึงจุดหมาย นายสมานได้ใช้ความชำนาญในการออกหา ด้วยการควานตามหญ้าดูตามพื้นดิน ก็จะพบว่ามีรังของแมงป่องช้าง ลักษณะเป็นโพล่งรูที่ไม่ลึกมากนัก โดยนายสมานจะใช้เสียมบรรจงขุดเข้าไปอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เสียมที่ขุดเข้าไปโดนตัวแมงป่องจนเสียหาย เพราะจะทำให้ขายไม่ได้ และเมื่อขุดลงไปจนพบแมงป่องช้างแล้ว ก็จะใช้ที่คีบดึงตัวมันออกมาใส่ไว้อยู่ในถังน้ำ
ส่วนการติดตามดูนายสมานจับแมงป่องช้างในวันนี้ ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็สามารถหาจับแมงป่องช้างได้เกือบ 10 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งก็จะพบว่ามีขนาดตัวแตกต่างกันไป แต่หากเจอตัวขนาดเล็ก ก็จะปล่อยให้มันกับไปอยู่ตามธรรมชาติดังเดิม ซึ่งนายสมานระบุว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูแล้ง จะหาจับได้ยากหน่อย แต่ถ้าหากเป็นช่วงฤดูฝน ที่นี่จะมีแมงป่องช้างให้หาจับเยอะมาก ชนิดที่ว่าเดินหาเพียงครึ่งวัน ก็สามารถหาจับพวกมันได้มากกว่า 50 ตัวเลยทีเดียว
นายสมาน เล่าว่า มีอาชีพเป็นเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง และรับจ้างทั่วไป แต่ก็จะใช้เวลาว่างเว้นจากงานมาออกหาจับแมงป่องช้างไปขายเพื่อหารายได้เสริม โดย 1 เดือน จะออกมาหาจับแมงป่องช้างประมาณ 4 ครั้ง โดยสมัยก่อนตนจะแค่จับเอาไปทอดกินเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัว และเพื่อนในละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงเพียงเท่านั้น แต่ในช่วง 10 ปีหลังมานี้ พื้นที่ อ.ตากฟ้า มีแหล่งรับซื้อแมงป่องช้างเอาไปกระจายขายต่อตามร้านอาหารต่างๆ จึงทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตนก็ทำเป็นอาชีพเสริมรายได้มาตลอด ส่วนราคารับซื้อ เขาจะรับซื้ออยู่ที่ตัวละ 5 บาท ซึ่งตนก็จะเก็บสะสมเอาไว้ให้ได้ประมาณ 100 ตัว จึงจะนำเอาไปขาย
“ในช่วงนี้เป็นช่วงแล้ง ก็จะหาจับแมงป่องช้างยากหน่อย เหมือนเช่นอย่างวันนี้ จะพบว่ามีน้อย แต่ถ้าหากเป็นช่วงฤดูฝน จะหาจับแมงป่องช้างง่ายมาก ซึ่งก็จะใช้เวลามากนัก เพราะในฤดูฝน ตนใช้เวลาเดินหาจับเพียงไม่ถึงครึ่งวัน ก็สามารถจับได้มากกว่า 50 ตัวเลยทีเดียว ส่วนฤดูแล้งนี้ ตนก็จะเก็บสะสมเอาไว้เรื่อยๆ ให้ครบ 100 ตัว แล้วจึงนำไปขาย โดยวิธีเก็บรักษาแมงป่องนี้ ตนแค่นำก้านมะยมมาปิดปกคลุมมันไว้ในถัง พวกมันก็อยู่ได้เป็นเดือนๆ”
เมื่อถามถึงการนำแมงป่องช้างไปทำเป็นอาหาร นายสมาน ระบุว่า ส่วนใหญ่เขาจะนำเอาไปทอดกับสมุนไพรทานกัน เมื่อไปเป็นเมนูตามร้านอาหาร จะมีราคาสูงถึงตัวละ 20-30 บาท ซึ่งก็จะมีรสชาติเค็มๆ มันๆ คล้ายกับแมลงทอดทั่วไป ส่วนสรรพคุณความเชื่อในการกินแมงป่องช้างนั้น คนที่นิยมกินเขาเชื่อว่า สามารถช่วยบำรุงสมอง และเพิ่มกำลังวังชาช่วยให้คึกคักซู่ซ่าตลอดทั้งวันเลยทีเดียว.
จากการลงพื้นที่ไปดูภารกิจดังกล่าว พบว่า นายสมานจะใช้อุปกรณ์ในการจับแมงป่องช้าง เพียง 3 อย่าง คือ เสียม 1 ด้าม ที่คีบ และถังน้ำอีก 1 ใบ โดยได้เดินทางออกจากบ้านพักไปที่แหล่งจับ ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 400 เมตร บุกป่าฝ่าดงซึ่งเต็มไปด้วยโคกกระสุน และหญ้าเจ้าชู้ เพื่อเข้าไปหาจับแมงป่องช้าง และทันทีที่ไปถึงจุดหมาย นายสมานได้ใช้ความชำนาญในการออกหา ด้วยการควานตามหญ้าดูตามพื้นดิน ก็จะพบว่ามีรังของแมงป่องช้าง ลักษณะเป็นโพล่งรูที่ไม่ลึกมากนัก โดยนายสมานจะใช้เสียมบรรจงขุดเข้าไปอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เสียมที่ขุดเข้าไปโดนตัวแมงป่องจนเสียหาย เพราะจะทำให้ขายไม่ได้ และเมื่อขุดลงไปจนพบแมงป่องช้างแล้ว ก็จะใช้ที่คีบดึงตัวมันออกมาใส่ไว้อยู่ในถังน้ำ
ส่วนการติดตามดูนายสมานจับแมงป่องช้างในวันนี้ ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็สามารถหาจับแมงป่องช้างได้เกือบ 10 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งก็จะพบว่ามีขนาดตัวแตกต่างกันไป แต่หากเจอตัวขนาดเล็ก ก็จะปล่อยให้มันกับไปอยู่ตามธรรมชาติดังเดิม ซึ่งนายสมานระบุว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูแล้ง จะหาจับได้ยากหน่อย แต่ถ้าหากเป็นช่วงฤดูฝน ที่นี่จะมีแมงป่องช้างให้หาจับเยอะมาก ชนิดที่ว่าเดินหาเพียงครึ่งวัน ก็สามารถหาจับพวกมันได้มากกว่า 50 ตัวเลยทีเดียว
นายสมาน เล่าว่า มีอาชีพเป็นเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง และรับจ้างทั่วไป แต่ก็จะใช้เวลาว่างเว้นจากงานมาออกหาจับแมงป่องช้างไปขายเพื่อหารายได้เสริม โดย 1 เดือน จะออกมาหาจับแมงป่องช้างประมาณ 4 ครั้ง โดยสมัยก่อนตนจะแค่จับเอาไปทอดกินเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัว และเพื่อนในละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงเพียงเท่านั้น แต่ในช่วง 10 ปีหลังมานี้ พื้นที่ อ.ตากฟ้า มีแหล่งรับซื้อแมงป่องช้างเอาไปกระจายขายต่อตามร้านอาหารต่างๆ จึงทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตนก็ทำเป็นอาชีพเสริมรายได้มาตลอด ส่วนราคารับซื้อ เขาจะรับซื้ออยู่ที่ตัวละ 5 บาท ซึ่งตนก็จะเก็บสะสมเอาไว้ให้ได้ประมาณ 100 ตัว จึงจะนำเอาไปขาย
“ในช่วงนี้เป็นช่วงแล้ง ก็จะหาจับแมงป่องช้างยากหน่อย เหมือนเช่นอย่างวันนี้ จะพบว่ามีน้อย แต่ถ้าหากเป็นช่วงฤดูฝน จะหาจับแมงป่องช้างง่ายมาก ซึ่งก็จะใช้เวลามากนัก เพราะในฤดูฝน ตนใช้เวลาเดินหาจับเพียงไม่ถึงครึ่งวัน ก็สามารถจับได้มากกว่า 50 ตัวเลยทีเดียว ส่วนฤดูแล้งนี้ ตนก็จะเก็บสะสมเอาไว้เรื่อยๆ ให้ครบ 100 ตัว แล้วจึงนำไปขาย โดยวิธีเก็บรักษาแมงป่องนี้ ตนแค่นำก้านมะยมมาปิดปกคลุมมันไว้ในถัง พวกมันก็อยู่ได้เป็นเดือนๆ”
เมื่อถามถึงการนำแมงป่องช้างไปทำเป็นอาหาร นายสมาน ระบุว่า ส่วนใหญ่เขาจะนำเอาไปทอดกับสมุนไพรทานกัน เมื่อไปเป็นเมนูตามร้านอาหาร จะมีราคาสูงถึงตัวละ 20-30 บาท ซึ่งก็จะมีรสชาติเค็มๆ มันๆ คล้ายกับแมลงทอดทั่วไป ส่วนสรรพคุณความเชื่อในการกินแมงป่องช้างนั้น คนที่นิยมกินเขาเชื่อว่า สามารถช่วยบำรุงสมอง และเพิ่มกำลังวังชาช่วยให้คึกคักซู่ซ่าตลอดทั้งวันเลยทีเดียว.
Category
😹
Fun