ในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเปิดงานโครงการหลวง 2563 ที่จังหวัดเชียงใหม่
เวลา 17.11 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งถึงยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, ผู้บังคับการกองบิน 41 พร้อมข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์
เวลา 17.44 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2563” ซึ่งมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง องค์การมหาชน และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 33 ระหว่างวันที่ 21-27 ธันวาคม 2563 ภายใต้แนวคิด “สายธารแห่งภูมิปัญญา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์มูลนิธิฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมทั้งเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงก่อตั้งมูลนิธิฯ, เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนเผยแพร่กิจกรรมการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง ตลอดระยะเวลา 51 ปี และส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์โครงการหลวง
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ และกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย คลังสมองโครงการหลวง “ภูมิปัญญาแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” จัดแสดงปัญหาบนพื้นที่สูงในอดีต ทั้งด้านความยากจน การปลูกฝิ่น และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ที่นำไปสู่รูปแบบการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง หรือโครงการหลวงโมเดล 6 แนวปฏิบัติ ที่นำไปสู่ความสำเร็จจนได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและนานาชาติ ว่าเป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ, นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “จากดินแดนฝิ่น สู่แผ่นดินทอง” จัดแสดงประวัติโครงการหลวงตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด 39 โครงการหลวงสู่ 44 โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรฐานเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจ “พลิกฟื้นพืชเกษตรแทนพืชเสพติด ด้วยระบบการผลิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” จากปัญหาฝิ่นและความยากจน นํามาสู่การวิจัยพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์เขตหนาว เพื่อส่งเสริมเป็นอาชีพทดแทนแก่เกษตรกรชาวไทยภูเขา ด้วยระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย เน้นการใช้ชีวภัณฑ์ทดแทนสารเคมี และเทคโนโลยีการผลิต ส่วนฐานเรียนรู้ด้านสังคม “น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงชีพชุมชนเข้มแข็ง ปลูกฝังเยาวชนต้นแบบพึ่งพาตนเอง” ที่สร้างรากฐานการศึกษา จากการพัฒนาเด็กเล็ก สู่เยาวชนโครงการหลวงรุ่นใหม่ โดยจำลองการดำเนินงาน และจำลองภาพชุมชน โดยยกชุมชนปกาเกอะญอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ที่ได้รับการแก้ปัญหายาเสพติด และความยากจน ด้วยการประยุกต์ใช้รูปแบบการพัฒนาจากองค์ความรู้ของโครงการหลวงมาจัดแสดง
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการวิชาการ ซึ่งจัดแสดงจัดผลงานวิจัยที่โดดเด่น ผลผลิต ผลิตภัณฑ์ใหม่ของโครงการหลวง อาทิ สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทานในประเทศไทย ที่เริ่มต้นจากโครงการหลวง และพัฒนารสชาติและกลิ่นหอม ต่อยอดสู่การเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ข
เวลา 17.44 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2563” ซึ่งมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง องค์การมหาชน และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 33 ระหว่างวันที่ 21-27 ธันวาคม 2563 ภายใต้แนวคิด “สายธารแห่งภูมิปัญญา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์มูลนิธิฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมทั้งเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงก่อตั้งมูลนิธิฯ, เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนเผยแพร่กิจกรรมการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง ตลอดระยะเวลา 51 ปี และส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์โครงการหลวง
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ และกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย คลังสมองโครงการหลวง “ภูมิปัญญาแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” จัดแสดงปัญหาบนพื้นที่สูงในอดีต ทั้งด้านความยากจน การปลูกฝิ่น และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ที่นำไปสู่รูปแบบการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง หรือโครงการหลวงโมเดล 6 แนวปฏิบัติ ที่นำไปสู่ความสำเร็จจนได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและนานาชาติ ว่าเป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ, นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “จากดินแดนฝิ่น สู่แผ่นดินทอง” จัดแสดงประวัติโครงการหลวงตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด 39 โครงการหลวงสู่ 44 โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรฐานเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจ “พลิกฟื้นพืชเกษตรแทนพืชเสพติด ด้วยระบบการผลิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” จากปัญหาฝิ่นและความยากจน นํามาสู่การวิจัยพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์เขตหนาว เพื่อส่งเสริมเป็นอาชีพทดแทนแก่เกษตรกรชาวไทยภูเขา ด้วยระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย เน้นการใช้ชีวภัณฑ์ทดแทนสารเคมี และเทคโนโลยีการผลิต ส่วนฐานเรียนรู้ด้านสังคม “น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงชีพชุมชนเข้มแข็ง ปลูกฝังเยาวชนต้นแบบพึ่งพาตนเอง” ที่สร้างรากฐานการศึกษา จากการพัฒนาเด็กเล็ก สู่เยาวชนโครงการหลวงรุ่นใหม่ โดยจำลองการดำเนินงาน และจำลองภาพชุมชน โดยยกชุมชนปกาเกอะญอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ที่ได้รับการแก้ปัญหายาเสพติด และความยากจน ด้วยการประยุกต์ใช้รูปแบบการพัฒนาจากองค์ความรู้ของโครงการหลวงมาจัดแสดง
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการวิชาการ ซึ่งจัดแสดงจัดผลงานวิจัยที่โดดเด่น ผลผลิต ผลิตภัณฑ์ใหม่ของโครงการหลวง อาทิ สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทานในประเทศไทย ที่เริ่มต้นจากโครงการหลวง และพัฒนารสชาติและกลิ่นหอม ต่อยอดสู่การเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ข