พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดตรัง​ และพัทลุง

  • 3 ปีที่แล้ว
เวลา 16.24 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่งถึงยังท่าอากาศยานตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง, ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดตรัง, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย​ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ อย่างเนืองแน่น โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ แล้วทรงตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ก่อนจะประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง​
เวลา 17.14 น.​ เสด็จพระราชดำเนินถึงเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง​ ในการนี้​ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​ ทรงจุดเทียนชนวนที่โคมไฟฟ้าแล้วพระราชทานเทียนชนวนที่ทรงจุดแก่นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อนำไปสักการะพระพุทธจอมไตร เพื่อเป็นพุทธบูชา ณ วัดจอมไตร อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ทำพิธีหล่อด้วยโลหะองค์แรกของจังหวัดตรัง สร้างขึ้นเมื่อปี 2488 ประดิษฐานในอุโบสถวัดจอมไตร ซึ่งกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี 2542 โอกาสนี้ ทรงโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชน ที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ซึ่งต่างพร้อมใจสวมเสื้อสีเหลือง และเปล่งเสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" อย่างกึกก้อง ด้วยความปลื้มปีติ ที่ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีของทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิด
เวลา 18.04 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง บริเวณวัดควนปรง ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง​ ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร เจ้าพนักงานภูษามาลา​ เชิญแผ่นยันต์ที่จะบรรจุหัวเม็ดทรงมัณฑ์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย​ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นยันต์ ทรงม้วนแผ่นยันต์ แล้วสวมแหวนนพรัตน์ที่ม้วนยันต์​ แล้วพระราชทานแผ่นยันต์ที่จะบรรจุหัวเม็ดทรงมัณฑ์คืนเจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญไปยังศาลหลักเมือง​ จากนั้น เสด็จขึ้นเกยศาลหลักเมือง ทรงหยิบแผ่นยันต์จากเจ้าพนักงานภูษามาลา​ แล้วทรงบรรจุลงที่หัวเม็ดทรงมัณฑ์ ทรงสวมยอดหัวเม็ดทรงมัณฑ์ที่ยอดเสาศาลหลักเมือง ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ทรงปิดทอง ทรงผูกผ้าสีชมพู แล้วทรงคล้องพวงมาลัยเสาหลักเมือง เสด็จลงจากเกย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ​ พระบรมราชินี​ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศาลหลักเมืองพัทลุง​
จังหวัดพัทลุง​ เคยมีหลักเมืองมาก่อน แต่เนื่องจากมีการย้ายเมืองพัทลุงไปตั้งที่อื่นหลายครั้ง และในปี​ 2466​ ย้ายมาตั้งที่ตำบล​คูหาสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเมืองพัทลุง ในปัจจุบัน แต่ยังคงไม่มีการสร้างศาลหลักเมือง​ ในปี​ 2553 ประชาชนจังหวัดพัทลุง​ และภาคส่วนต่าง ๆ​ ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนก่อสร้างศาลหลักเมืองพัทลุง​ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร​ เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และเพื่อเป็นหลักชัยศูนย์รวมจิตใจของประชาชนจังหวัดพัทลุง ซึ่งจัดสร้างศาลหลักเมืองและเสาหลักเมืองประจำจังหวัดพัทลุงแล้วเสร็จในปี 2554 ต่อมา​ ได้ปรับปรุงองค์ประกอบของศาลหลักเมืองเพิ่มเติมด้วยการก่อสร้างบันไดทางขึ้น ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง​ และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบแล้วเสร็จในปี 2562 อาคารศาลหลักเมืองพัทลุง ออกแบบเป็นศิลปะทางภาคใต้เฉพาะจังหวัดพัทลุง มีจัตุรมุข ฉาบปูนปั้น ทาสี หลังคาศิลปะทรงภาคใต้ มียอดปรางค์ พรหมพัก

แนะนำ