โชคดีที่ติด GPS ทหารชุดเฉพาะกิจฯ เจรจากับทหารเมียนมา ขอไถ่รถฟอร์จูนเนอร์ของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่งที่โดนแก๊งโจรกรรมรถยนต์ทำทีขอเช่า ก่อนนำรถมาขายฝั่งเมียนมา ผ่านชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี
นายปฐมพงษ์ สิงโตทอง เจ้าของรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5568 กทม. ใช้น้ำยาแอลกอฮอล์ฉีดพ่นพวงมาลัยและเบาะนั่ง หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า และหัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่ 4 บ้านพระเจดีย์สามองค์ นำรถยนต์ข้ามแดนกลับมาส่งมอบคืนให้ได้สำเร็จ หลังจากต้องใช้เวลาประสานทางทหารเมียนมา เพื่อขอไถ่รถยนต์คันดังกล่าวคืนจากนายทุนชาวเมียนมา ซึ่งรับรถยนต์คันนี้จากขบวนการโจรกรรมรถยนต์ที่นำมาขายให้ในราคา 660,000 บาท
นายปฐมพงษ์ เจ้าของรถ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอาจเป็นคนโชคดีไม่กี่คนที่ได้รถยนต์กลับคืนมา จึงอยากฝากถึงเพื่อนๆ ที่ประกอบธุรกิจรถเช่าทุกคนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวมาขอเช่ารถ ที่สำคัญขอให้ทุกคนให้ความสำคัญในการติดตั้ง GPS ไว้ในรถ เพื่อสามารถติดตามดูรถของเราหลังให้เช่า ว่าผู้เช่านำไปที่ไหน หากไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ชายแดน ควรจับตาและเฝ้าระวัง ติดต่อผู้ขอเช่าทันที โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่ารถโดนจารกรรมแล้วให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเร่งออกติดตามทันที
ย้อนไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 น.ส.ปาริชาติ น้อยพึ่งบุญ อายุ 44 ปี ติดต่อขอเช่ารถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาวคันนี้ โดยแจ้งว่าจะนำรถยนต์ไปใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-ราชบุรี-ชลบุรี เป็นเวลา 5 วัน
ต่อมาเช้าวันที่ 16 มกราคม ผู้เสียหายได้ติดตามข้อมูลจาก GPS ของรถยนต์ พบว่า 24.00 น. รถยนต์ออกจากหมู่บ้านย่านบางบัวทอง มุ่งหน้าสู่กาญจนบุรี 01.57 น. พบอยู่ในพื้นที่ อ.ไทรโยค / 04.28 น. อยู่ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี / 07.50 น. อยู่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ก่อนจะเข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง บริเวณเขาคอนโด ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ จนกระทั่งเวลา 10.18 น. รถยนต์คันที่โดนจารกรรมได้ผ่านเข้าประตูช่องที่ซอยพานิช 8 เพื่อเข้าไปประเทศเมียนมา ตอนนั้นมั่นใจแล้วว่า รถยนต์ของตนถูกขโมยไปขายแน่นอน จึงแจ้งเพื่อนซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจรถเช่า และรีบไปแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ พร้อมทั้งประสานขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เป็นทหาร ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ให้ช่วยติดตาม
จากนั้นได้สนธิกำลังร่วมกับฝั่งเมียนมา ให้สกัดจับผู้ที่ขับรถฟอร์จูนเนอร์ขบวนการนี้ ซึ่งสืบทราบว่ามี 5 คน จนได้รับการประสานจากชุดทหารเมียนมา พัน ร.31 ประจำพื้นที่ อ.พญาตองซู ว่าพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ คันดังกล่าว รวมทั้งตัวผู้รับซื้อและนายหน้าทั้ง 5 คน ฝั่ง อ.พญาตองซู จึงได้มีการเจรจาขอรถยนต์คืน จากการเจรจา ทหารเมียนมาจะทำการคืนรถยนต์กลับฝั่งไทยต่อเมื่อผู้ซื้อได้รับเงินคืนจากฝั่งไทย เป็นจำนวนเงิน 850,000 บาท ตามราคาที่จ่ายให้กับนายหน้า และทหารเมียนมาจะเก็บรักษารถยนต์ไว้ให้ในระหว่างที่รอการดำเนินการ
กระทั่งช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้รับแจ้งจากจุดตรวจความมั่นคง สะพานรันตี ฝั่งเมียนมา ว่าพบทั้ง 5 คน ขับรถยนต์นิสสัน มาร์ช กลับมาที่ด่าน เพื่อกลับฝั่งไทย จึงทำการควบคุมตัวและสอบปากคำ ประกอบด้วย นายอภิสร ดาวเรือง นายเรวัฒน์ ชาวล้วน น.ส.จุฑามาศ จันทร์ปัญญา นายอิทธิเดช อบอุ่น และนายพรประทีป เจริญผล
นายปฐมพงษ์ สิงโตทอง เจ้าของรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5568 กทม. ใช้น้ำยาแอลกอฮอล์ฉีดพ่นพวงมาลัยและเบาะนั่ง หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า และหัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่ 4 บ้านพระเจดีย์สามองค์ นำรถยนต์ข้ามแดนกลับมาส่งมอบคืนให้ได้สำเร็จ หลังจากต้องใช้เวลาประสานทางทหารเมียนมา เพื่อขอไถ่รถยนต์คันดังกล่าวคืนจากนายทุนชาวเมียนมา ซึ่งรับรถยนต์คันนี้จากขบวนการโจรกรรมรถยนต์ที่นำมาขายให้ในราคา 660,000 บาท
นายปฐมพงษ์ เจ้าของรถ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอาจเป็นคนโชคดีไม่กี่คนที่ได้รถยนต์กลับคืนมา จึงอยากฝากถึงเพื่อนๆ ที่ประกอบธุรกิจรถเช่าทุกคนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวมาขอเช่ารถ ที่สำคัญขอให้ทุกคนให้ความสำคัญในการติดตั้ง GPS ไว้ในรถ เพื่อสามารถติดตามดูรถของเราหลังให้เช่า ว่าผู้เช่านำไปที่ไหน หากไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ชายแดน ควรจับตาและเฝ้าระวัง ติดต่อผู้ขอเช่าทันที โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่ารถโดนจารกรรมแล้วให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเร่งออกติดตามทันที
ย้อนไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 น.ส.ปาริชาติ น้อยพึ่งบุญ อายุ 44 ปี ติดต่อขอเช่ารถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาวคันนี้ โดยแจ้งว่าจะนำรถยนต์ไปใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-ราชบุรี-ชลบุรี เป็นเวลา 5 วัน
ต่อมาเช้าวันที่ 16 มกราคม ผู้เสียหายได้ติดตามข้อมูลจาก GPS ของรถยนต์ พบว่า 24.00 น. รถยนต์ออกจากหมู่บ้านย่านบางบัวทอง มุ่งหน้าสู่กาญจนบุรี 01.57 น. พบอยู่ในพื้นที่ อ.ไทรโยค / 04.28 น. อยู่ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี / 07.50 น. อยู่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ก่อนจะเข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง บริเวณเขาคอนโด ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ จนกระทั่งเวลา 10.18 น. รถยนต์คันที่โดนจารกรรมได้ผ่านเข้าประตูช่องที่ซอยพานิช 8 เพื่อเข้าไปประเทศเมียนมา ตอนนั้นมั่นใจแล้วว่า รถยนต์ของตนถูกขโมยไปขายแน่นอน จึงแจ้งเพื่อนซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจรถเช่า และรีบไปแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ พร้อมทั้งประสานขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เป็นทหาร ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ให้ช่วยติดตาม
จากนั้นได้สนธิกำลังร่วมกับฝั่งเมียนมา ให้สกัดจับผู้ที่ขับรถฟอร์จูนเนอร์ขบวนการนี้ ซึ่งสืบทราบว่ามี 5 คน จนได้รับการประสานจากชุดทหารเมียนมา พัน ร.31 ประจำพื้นที่ อ.พญาตองซู ว่าพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ คันดังกล่าว รวมทั้งตัวผู้รับซื้อและนายหน้าทั้ง 5 คน ฝั่ง อ.พญาตองซู จึงได้มีการเจรจาขอรถยนต์คืน จากการเจรจา ทหารเมียนมาจะทำการคืนรถยนต์กลับฝั่งไทยต่อเมื่อผู้ซื้อได้รับเงินคืนจากฝั่งไทย เป็นจำนวนเงิน 850,000 บาท ตามราคาที่จ่ายให้กับนายหน้า และทหารเมียนมาจะเก็บรักษารถยนต์ไว้ให้ในระหว่างที่รอการดำเนินการ
กระทั่งช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้รับแจ้งจากจุดตรวจความมั่นคง สะพานรันตี ฝั่งเมียนมา ว่าพบทั้ง 5 คน ขับรถยนต์นิสสัน มาร์ช กลับมาที่ด่าน เพื่อกลับฝั่งไทย จึงทำการควบคุมตัวและสอบปากคำ ประกอบด้วย นายอภิสร ดาวเรือง นายเรวัฒน์ ชาวล้วน น.ส.จุฑามาศ จันทร์ปัญญา นายอิทธิเดช อบอุ่น และนายพรประทีป เจริญผล
Category
🗞
News