ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มั่นใจการขยายเวลา-ปรับเงื่อนไขลงทะเบียน แพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงปลายปี คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลจัดโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย ผ่านมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2563 และเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 18 กรฎาคมที่ผ่านมา แต่ยอดผู้ลงทะเบียนยังไม่ถึงเป้า
ล่าสุดได้มีการปรับปรุงมาตรการใหม่ให้มีความยืดหยุ่นและใช้งานง่ายขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนคนไทยอยากออกไปเที่ยวมากยิ่งขึ้น เช่น ขยายเวลาโครงการ ให้เดินทางท่องเที่ยวได้จนถึง 31 มกราคม 2564 จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมนี้, ปลดล็อกให้เลือกเดินทางท่องเที่ยวและเข้าพักในจังหวัดภูมิลำเนาของตัวเองได้, ปรับการจอง-การใช้จ่ายให้ง่ายขึ้น รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ E-Voucher ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น หรือใช้สิทธิ์ให้มากที่สุดจากจำนวนสิทธิ์ที่เตรียมไว้ในโครงการนี้ คือ ห้องพักประมาณ 5 ล้านห้อง ตั๋วเครื่องบินประมาณ 2 ล้านใบ
ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้วประมาณ 5 ล้านสิทธิ์ มีการใช้สิทธิ์ขอรับที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และ E-Voucher แล้ว รวมประมาณ 1.4 ล้านสิทธิ์ มีเม็ดเงินสะพัดลงสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านไปยังผู้ประกอบการแล้วประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อรวมกับมาตรการอื่นๆ ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลแล้ว จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวปลายปีให้คึกคักขึ้น และคาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศถึงสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 80-100 คน-ครั้ง ตามเป้าหมาย มีรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศรวม 750,000 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลจัดโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย ผ่านมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2563 และเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 18 กรฎาคมที่ผ่านมา แต่ยอดผู้ลงทะเบียนยังไม่ถึงเป้า
ล่าสุดได้มีการปรับปรุงมาตรการใหม่ให้มีความยืดหยุ่นและใช้งานง่ายขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนคนไทยอยากออกไปเที่ยวมากยิ่งขึ้น เช่น ขยายเวลาโครงการ ให้เดินทางท่องเที่ยวได้จนถึง 31 มกราคม 2564 จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมนี้, ปลดล็อกให้เลือกเดินทางท่องเที่ยวและเข้าพักในจังหวัดภูมิลำเนาของตัวเองได้, ปรับการจอง-การใช้จ่ายให้ง่ายขึ้น รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ E-Voucher ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น หรือใช้สิทธิ์ให้มากที่สุดจากจำนวนสิทธิ์ที่เตรียมไว้ในโครงการนี้ คือ ห้องพักประมาณ 5 ล้านห้อง ตั๋วเครื่องบินประมาณ 2 ล้านใบ
ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้วประมาณ 5 ล้านสิทธิ์ มีการใช้สิทธิ์ขอรับที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และ E-Voucher แล้ว รวมประมาณ 1.4 ล้านสิทธิ์ มีเม็ดเงินสะพัดลงสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านไปยังผู้ประกอบการแล้วประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อรวมกับมาตรการอื่นๆ ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลแล้ว จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวปลายปีให้คึกคักขึ้น และคาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศถึงสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 80-100 คน-ครั้ง ตามเป้าหมาย มีรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศรวม 750,000 ล้านบาท
Category
🗞
News