Gilbert O'Sullivan - Alone Again (Naturally) - YouTube
16 จำนวนการรับชม
วันนี้มาทักทาย ด้วยเพลง ของนักร้อง/นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ-ไอริชที่ชื่อ Gilbert O'Sullivan กับความหมายเพลงทีว่า "มีเพียงฉัน..อยู่ลำพังผู้เดียว...อย่างที่เคยเป็นมา"
ความหมายเนื้อเพลง ดิฉันขอนำมาแชร์จาก ชมรมเรียนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊ค นะคะ
เพลงนี้ พูดถึงผู้ชายคนนึงที่เศร้าผิดหวังในชีวิตมาก จนเขาไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกแล้ว เพราะว่า เขาถูกแฟนปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียวที่โบสถ์ไม่ยอมมาเจอ (คือถูกทิ้ง) จนเดินกลับบ้านไปคนเดียว เขานึกถึงความหลังตอนที่เคยมีช่วงเวลาที่ดีๆในชีวิต แต่ตอนนี้เหมือนมันพังไปหมดแล้วจนตัวเขาเหมือนจะแตกเป็นชิ้นๆ แล้วก็ยังบอกว่าไม่ได้มีเขาคนเดียวที่เป็นแบบนี้ มีคนอีกมากมายบนโลกนี้ที่ต้องเจอความทุกข์ต้องล้มลงในชีวิตอีกเยอะ ซึ่งชีวิตจริงก็มีคนอย่างนั้นเยอะแล้วก็ต้องสู้กับปัญหาคนเดียวตามลำพัง
แล้วเขายังเล่าอีกว่านึกถึงตอนที่พ่อเขาเสีย เขาร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะเหลือแล้วภาพที่เขาเห็นคือแม่ที่เขาเหลืออยู่คนเดียวอายุ 65 ต้องมาเจอเหตุการณ์เศร้าอย่างนี้ด้วย คนที่แม่เขารักมากที่สุดต้องจากแม่ไปจนแม่เขาพูดไม่ออกไม่ว่าเขาจะให้กำลังใจแม่ยังไง แล้วพอต่อมาแม่เขาเสียอีกคน ก็เป็นตัวเขาที่ร้องไห้ฟูมฟายคนเดียว
แนวคิดดีๆที่ได้จากเพลงนี้
เพลงนี้ถึงความหมายเศร้า แต่ก็เป็นชีวิตจริงของทุกคนครับ เพราะคนที่เรารักมากแค่ไหนสัตว์เลี้ยงที่เรารักมากแค่ไหน ไม่มีวันที่จะอยู่กับเราไปตลอดหรอกครับ วันนึงก็ต้องตายจากกันไป
สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือใช้เวลากับคนที่เรารักให้คุ้มค่าดูแลรักษาถนอมน้ำใจคนรักให้ดีที่สุดจะเป็นพ่อแม่หรือใครก็ตาม พอเขาจากไปจะได้ไม่เสียดายนึกโทษตัวเองอย่างนั้นอย่างนี้ หรือมานั่งทำบุญให้คนตายซึ่งก็จะถึงรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่ตอนอยู่ด้วยกันกลับไม่ดูแลไม่รักษาน้ำใจกัน บางคนหน้ายังไม่มองกันเพราะว่าไม่ถูกกัน หรือไม่มีเวลา ทำแต่งาน หรือเฮฮาปาร์ตี้ แต่เวลากับคนที่รักเรากลับไม่มี บางคนบอกไม่เอาไม่อยากเจอไม่ถูกกันเจอแล้วทะเลาะกันทุกที เพราะว่าเราไปมองแต่ข้อเสียของเขาอย่างเดียว แต่ข้อดีล้นเหลือของเขามากมายกลับไม่มอง
คิดอย่างนี้ยังไงวันยังค่ำก็ไม่มีวันดีกันได้ครับ ยกตัวอย่าง วัยรุ่นหลายคนเป็น ชอบเถียงพ่อแม่ รำคาญพ่อแม่ คนที่คิดอย่างนี้คือมองจุดเดียว ไม่ยอมมองจุดดีของพ่อแม่ว่าทำอะไรมาให้เรามากมายขนาดไหน กลับไปเอาคำพูดหรือคำด่าพ่อแม่มาคิดจนทำให้เราคิดไม่ดีกับพ่อแม่ตัวเอง คนที่คิดอย่างนี้รีบเปลี่ยนใหม่นะครับมองว่าคนที่รักเราทำเพื่อเรามาขนาดไหน
เวลาที่จากกันไปจะได้ไม่เสียดายไม่โทษตัวเองจะร้องไห้ยังไงเขาก็ไม่กลับมาแล้วครับ เหมือนที่เพลงนี้เขาบอก
ความหมายเนื้อเพลง ดิฉันขอนำมาแชร์จาก ชมรมเรียนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊ค นะคะ
เพลงนี้ พูดถึงผู้ชายคนนึงที่เศร้าผิดหวังในชีวิตมาก จนเขาไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกแล้ว เพราะว่า เขาถูกแฟนปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียวที่โบสถ์ไม่ยอมมาเจอ (คือถูกทิ้ง) จนเดินกลับบ้านไปคนเดียว เขานึกถึงความหลังตอนที่เคยมีช่วงเวลาที่ดีๆในชีวิต แต่ตอนนี้เหมือนมันพังไปหมดแล้วจนตัวเขาเหมือนจะแตกเป็นชิ้นๆ แล้วก็ยังบอกว่าไม่ได้มีเขาคนเดียวที่เป็นแบบนี้ มีคนอีกมากมายบนโลกนี้ที่ต้องเจอความทุกข์ต้องล้มลงในชีวิตอีกเยอะ ซึ่งชีวิตจริงก็มีคนอย่างนั้นเยอะแล้วก็ต้องสู้กับปัญหาคนเดียวตามลำพัง
แล้วเขายังเล่าอีกว่านึกถึงตอนที่พ่อเขาเสีย เขาร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะเหลือแล้วภาพที่เขาเห็นคือแม่ที่เขาเหลืออยู่คนเดียวอายุ 65 ต้องมาเจอเหตุการณ์เศร้าอย่างนี้ด้วย คนที่แม่เขารักมากที่สุดต้องจากแม่ไปจนแม่เขาพูดไม่ออกไม่ว่าเขาจะให้กำลังใจแม่ยังไง แล้วพอต่อมาแม่เขาเสียอีกคน ก็เป็นตัวเขาที่ร้องไห้ฟูมฟายคนเดียว
แนวคิดดีๆที่ได้จากเพลงนี้
เพลงนี้ถึงความหมายเศร้า แต่ก็เป็นชีวิตจริงของทุกคนครับ เพราะคนที่เรารักมากแค่ไหนสัตว์เลี้ยงที่เรารักมากแค่ไหน ไม่มีวันที่จะอยู่กับเราไปตลอดหรอกครับ วันนึงก็ต้องตายจากกันไป
สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือใช้เวลากับคนที่เรารักให้คุ้มค่าดูแลรักษาถนอมน้ำใจคนรักให้ดีที่สุดจะเป็นพ่อแม่หรือใครก็ตาม พอเขาจากไปจะได้ไม่เสียดายนึกโทษตัวเองอย่างนั้นอย่างนี้ หรือมานั่งทำบุญให้คนตายซึ่งก็จะถึงรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่ตอนอยู่ด้วยกันกลับไม่ดูแลไม่รักษาน้ำใจกัน บางคนหน้ายังไม่มองกันเพราะว่าไม่ถูกกัน หรือไม่มีเวลา ทำแต่งาน หรือเฮฮาปาร์ตี้ แต่เวลากับคนที่รักเรากลับไม่มี บางคนบอกไม่เอาไม่อยากเจอไม่ถูกกันเจอแล้วทะเลาะกันทุกที เพราะว่าเราไปมองแต่ข้อเสียของเขาอย่างเดียว แต่ข้อดีล้นเหลือของเขามากมายกลับไม่มอง
คิดอย่างนี้ยังไงวันยังค่ำก็ไม่มีวันดีกันได้ครับ ยกตัวอย่าง วัยรุ่นหลายคนเป็น ชอบเถียงพ่อแม่ รำคาญพ่อแม่ คนที่คิดอย่างนี้คือมองจุดเดียว ไม่ยอมมองจุดดีของพ่อแม่ว่าทำอะไรมาให้เรามากมายขนาดไหน กลับไปเอาคำพูดหรือคำด่าพ่อแม่มาคิดจนทำให้เราคิดไม่ดีกับพ่อแม่ตัวเอง คนที่คิดอย่างนี้รีบเปลี่ยนใหม่นะครับมองว่าคนที่รักเราทำเพื่อเรามาขนาดไหน
เวลาที่จากกันไปจะได้ไม่เสียดายไม่โทษตัวเองจะร้องไห้ยังไงเขาก็ไม่กลับมาแล้วครับ เหมือนที่เพลงนี้เขาบอก